ในปัจจุบัน เทคโนโลยีและโมบายซอฟต์แวร์ได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในการสื่อสารและจัดเก็บข้อมูล รวมถึงการขับเคลื่อนธุรกิจมากขึ้น ทำให้บุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ รวมถึงนวัตกรรมโมบายซอฟต์แวร์ กลายเป็นที่ต้องการในตลาดงานเป็นอย่างมาก MUT จึงได้มุ่งมั่นพัฒนาหลักสูตรให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยีดิจิทัล ทั้งการออกแบบ พัฒนา และสร้างสรรค์แอปพลิเคชันบนสมาร์ตโฟน และเว็บไซต์ การบริหารฐานข้อมูล ไปจนถึงการประยุกต์ใช้ปัญญาประดิษฐ์ เพื่อให้มีความพร้อมสำหรับภาคอุตสาหกรรม

ทำความรู้จักหลักสูตรเทคโนโลยีสารสนเทศและนวัตกรรมโมบายซอฟต์แวร์

หลักสูตรเทคโนโลยีสารสนเทศและนวัตกรรมโมบายซอฟต์แวร์ มุ่งเน้นการสร้างบัณฑิตให้มีทักษะและประสบการณ์ ที่สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยีดิจิทัล สู่ระบบแอปบนสมาร์ตโฟนในการสร้างสรรค์ พัฒนาแอปพลิเคชันและบริการ เพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงทั้งด้านเศรษฐกิจและสังคม เช่น นวัตกรรมด้านโมบายแอป ซอฟต์แวร์และเทคโนโลยีทางการเงิน เทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตที่เชื่อมต่อและบังคับอุปกรณ์ต่าง ๆ ให้ทำงานโดยอัตโนมัติ หรืออินเทอร์เน็ตในทุกสิ่งทุกอย่าง

เทคโนโลยีสารสนเทศและนวัตกรรมโมบายซอฟต์แวร์เรียนอะไรบ้าง?

เนื้อหาการเรียนในชั้นปีที่ 1 จะเป็นการเรียนพื้นฐานการเขียนโปรแกรมต่าง ๆ เพื่อให้น้อง ๆ มีพื้นฐานที่แน่นและพร้อมที่กับเนื้อหาการเรียนในปีต่อ ๆ ไป ส่วนในปีที่ 2 น้อง ๆ จะได้ลงมือพัฒนาแอปพลิเคชันทั้งโมบายและเว็บไซต์ในเบื้องต้นด้วยตัวเอง จากนั้นในปีที่ 3 ก็จะเป็นการเจาะลึกเกี่ยวกับการออกแบบฐานข้อมูล และการใช้เครื่องมือต่าง ๆ แบบแอดวานซ์ และในปีที่ 4 น้อง ๆ จะได้ใช้ความรู้ที่เรียนมาออกไปทำสหกิจ หรือลงมือทำงานจริง รวมถึงทำโปรเจกต์จบ

• User Interface and Experience Design การออกแบบส่วนต่อประสานและประสบการณ์ของผู้ใช้
• Object Oriented Analysis and Design with UML การวิเคราะห์และออกแบบเชิงวัตถุด้วยยูเอ็มแอล
• Information Systems Analysis and Design การวิเคราะห์และออกแบบระบบสารสนเทศ
• Data Structures and Algorithms โครงสร้างข้อมูลและอัลกอริทึม
• On-Premise and Off-Premise Relational Database Management การบริหารจัดการฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์แบบในที่ตั้งและนอกที่ตั้ง
• On-Premise and Off-Premise Non-Relational Database Management การบริหารจัดการฐานข้อมูลเชิงไม่สัมพันธ์แบบในที่ตั้งและนอกที่ตั้ง
• Web Application Development with Laravel and Vue.js Framework การพัฒนาเว็บแอปพลิเคชันด้วย ลาราเวล และวิวดอทเจเอส เฟรมเวิร์ค
• Internet of Things Laboratory ปฏิบัติการสำหรับอินเทอร์เน็ตของสรรพสิ่ง
• Digital Technology for Entrepreneurs การใช้เทคโนโลยีดิจิทัลสำหรับการเป็นผู้ประกอบการ
• Digital Business and Financial Technology ธุรกิจดิจิทัลและเทคโนโลยีการเงิน
• Native Application Development for Android OS การพัฒนาโปรแกรมประยุกต์แบบเนทีฟสำหรับระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์
• Native Application Development for iOS การพัฒนาโปรแกรมประยุกต์แบบเนทีฟสำหรับระบบปฏิบัติการไอโอเอส
• Cross-Platform Application Development with React Framework การพัฒนาโปรแกรมประยุกต์แบบครอสแพลตฟอร์มด้วยรีแอคต์เฟรมเวิร์ค
• Web Application Development with C# .Net Core Framework การพัฒนาเว็บแอปพลิเคชันด้วยซีชาร์ปดอทเน็ตคอร์เฟรมเวิร์ค
• Designing Web APIs with Node.js การออกแบบเว็บเอพีไอด้วยโหนดเจเอส
• Web Application Development with Django Framework การพัฒนาเว็บแอปพลิเคชันด้วยดีแจงโกเฟรมเวิร์ค
• Web Application Development with Spring Framework การพัฒนาเว็บแอปพลิเคชันด้วยสปริงเฟรมเวิร์ค
• Cross-Platform Application Development with Flutter Framework การพัฒนาโปรแกรมประยุกต์แบบครอสแพลตฟอร์มด้วยฟลัตเตอร์เฟรมเวิร์ค
• Laboratory in Software Testing ปฏิบัติการสำหรับการทดสอบซอฟต์แวร์
• Design and Implementation of Data Warehouse Systems การออกแบบและการสร้างระบบคลังข้อมูล
• Containerization and Virtualization for Information Technology คอนเทนเนอร์ไลเซชั่น และ เวอร์ชวลไลเซชั่น สำหรับเทคโนโลยีสารสนเทศ
• Data Visualization and Business Intelligence Systems การสร้างภาพข้อมูลและระบบธุรกิจอัจฉริยะ
• Laboratory in Introduction to Blockchain and Big Data Technology ปฏิบัติการสำหรับเทคโนโลยีบล็อกเชนและข้อมูลขนาดใหญ่เบื้องต้น
• Artificial Intelligence and Machine Learning Applications การประยุกต์ใช้ปัญญาประดิษฐ์และการเรียนรู้ของเครื่อง

เรียนจบเทคโนโลยีสารสนเทศและนวัตกรรมโมบายซอฟต์แวร์ ทำงานอะไรได้บ้าง

สำหรับสายงานของบัณฑิตที่จบจากสาขานี้ เป็นอาชีพสายเทคโนโลยีที่เป็นที่ต้องการอย่างมากในอนาคต โดยฐานเงินเดือนของสายงานนี้ในประเทศไทย จะเริ่มต้นที่ประมาณ 20,000 – 60,000 บาท แต่หากมีโอกาสได้ไปทำงานในต่างประเทศ ฐานเงินเดือนก็จะสูงขึ้นได้ถึงหลักแสนบาทเลยทีเดียว อีกทั้งยังมีสายงานให้เลือกหลากหลาย เช่น

• นักพัฒนาโปรแกรมเต็มรูปแบบ Front-end and Back-end Developer ฐานเงินเดือนเริ่มต้นประมาณ 25,000 – 40,000 บาท
• นักพัฒนาแพลตฟอร์มอุปกรณ์เคลื่อนที่ Mobile App Developer ฐานเงินเดือนเริ่มต้นประมาณ 20,000 – 50,000 บาท
• นักพัฒนาแพลตฟอร์มอุปกรณ์สวมใส่ Wearable App Developer ฐานเงินเดือนเริ่มต้นประมาณ 20,000 – 50,000 บาท
• นักพัฒนาแพลตฟอร์มเว็บแอปพลิเคชัน Web Developer ฐานเงินเดือนเริ่มต้นประมาณ 20,000 – 50,000 บาท
• นักพัฒนาโปรแกรมอรรถประโยชน์ Utility Program Developer ฐานเงินเดือนเริ่มต้นประมาณ 20,000 – 50,000 บาท
• นักพัฒนาอินเทอร์เน็ตของสรรพสิ่ง Internet of Thing Developer ฐานเงินเดือนเริ่มต้นประมาณ 20,000 – 50,000 บาท
• นักวิเคราะห์และออกแบบระบบสารสนเทศ Information Technology and System Analyst and Designer ฐานเงินเดือนเริ่มต้นประมาณ 25,000 – 60,000 บาท
• ผู้ดูแลและบริหารจัดการระบบฐานข้อมูล Database Administrator ฐานเงินเดือนเริ่มต้นประมาณ 35,000 – 60,000 บาท
• วิศวกรข้อมูล Data Engineering ฐานเงินเดือนเริ่มต้นประมาณ 40,000 – 70,000 บาท
• นักนวัตกร หรือนักสร้างนวัตกรรม Innovator ฐานเงินเดือนเริ่มต้นประมาณ 20,000 – 50,000 บาท
• ผู้ดูแลระบบเครือข่าย Network Administrator ฐานเงินเดือนเริ่มต้นประมาณ 28,000 – 42,000 บาท
  
• นักวิเคราะห์ข้อมูล Data Analyzer ฐานเงินเดือนเริ่มต้นประมาณ 25,000 – 45,000 บาท
• นักวิชาการเทคโนโลยีสารสนเทศ/นักวิชาการคอมพิวเตอร์ Computer / IT Officer ฐานเงินเดือนเริ่มต้นประมาณ 25,000 – 30,000 บาท
• นักวิชาชีพในสถานประกอบการที่มีการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ IT Specialist ฐานเงินเดือนเริ่มต้นประมาณ 25,000 – 30,000 บาท