“ไทยแลนด์ 66 พลิกโฉมสู่ความยั่งยืน”

     มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานคร จัดสัมมนา “ไทยแลนด์ 66 พลิกโฉมสู่ความยั่งยืน” เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 8 กันยายน 2565 ณ อาคารมหานครมิวเซียม เพื่อร่วมกันระดมความคิด วิเคราะห์ และร่วมเสนอแนะจากทุกภาคส่วน ภายใต้สภาวะโลกที่ไม่ปกตินัก แต่ชาติบ้านเมืองก็ไม่อาจหยุดพัฒนาได้ จะเป็นประโยชน์มากที่สุดสำหรับประเทศไทย โดยได้รับเกียรติจากคุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ปรองดองสมานฉันท์ สู่การพัฒนาที่ยั่งยืน” และดร.กอบศักดิ์ ภูตระกูล กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) และประธานสภาตลาดทุนไทย นายณัฐพงศ์ พันธเกียรติไพศาล ที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการป้องกันปราบปรามการฟอกเงินและยาเสพติดและที่ปรึกษามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานคร รศ.ดร.ยุทธพร อิสรชัย ประจำสาขาวิชารัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช  ร่วมเป็นวิทยากรในการสัมมนาครั้งนี้  

   

     ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ภานวีย์  โภไคยอุดม อธิการบดี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานคร กล่าวเปิดงานสัมมนาในครั้งนี้ว่า ในมุมมองของเรา ที่เป็นมหาวิทยาลัยเฉพาะทาง ที่มุ่งสร้างบัณฑิตคุณภาพสูงพร้อมใช้งาน เราต้องรับผิดชอบอนาคตของนักศึกษาหลายพันคน ที่เชื่อมั่นในมหานคร  และเลือกมาเรียนกับเรา เราต้องพาทีมบุคลากรนับพัน ฟันฝ่าอุปสรรคนานับประการทั้งปัญหา aging society ปัญหาประชากรที่เป็นเยาวชนวันเรียนลดลง เนื่องจากอัตราการเกิดลดลง เรื่องนี้จะส่งผลให้กำลังคนที่จะป้อนเข้าสู่สายการผลิตและบริการลดลง ในขณะที่ EEC ประกาศแผนความต้องการอัตรากำลังแรงงานทักษะสูงหลายหมื่นคนและตัวเลขนี้จะเพิ่มเป็นทวีคูณทุกปี ทำให้เราต้องหันมาพิจารณากำลังแรงงานอายุ 30 ปี ขึ้นไปกว่า 35 ล้านคน ที่อยู่ระหว่างประกอบอาชีพให้มีโอกาสได้ reskill หรือ upskill เสริมเรื่อง AI Automation และ Robotics เป็นต้น ขณะนี้มหาวิทยาลัยพร้อมเพื่อการนี้แล้วและเรายังได้ทำหน้าที่สร้างบัณฑิตคุณภาพ เพื่อไปสร้างผลผลิตทางเศรษฐกิจของชาติ และจรรโลงสังคม นั่นคือ เราต้องตอบโจทย์ภาคธุรกิจ และภาคอุตสาหกรรมที่เราจะป้อนทรัพยากรบุคคลให้ และต้องตอบโจทย์นักศึกษาว่า ทำไมต้องเลือกเรียนที่มหานคร ถึงตอนนี้ เราภูมิใจที่จะเรียนว่า หลักสูตรและกระบวนการเรียนการสอนของเรา ได้รับการออกแบบและพัฒนาโดยคณาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิ มีการรับฟังความเห็นจากภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมที่ช่วยระบุทักษะ ที่ต้องการใช้จากบัณฑิตของเรา จุดเด่นของหลักสูตรอีกประการหนึ่ง คือ มีลักษณะยืดหยุ่นเป็น Modular ปรับเปลี่ยนได้ง่ายตามความเหมาะสมและตามบริบทของสังคมที่พลิกผันตลอดเวลา อาจารย์ของเราส่วนใหญ่ เคยทำงานและมีบทบาทสำคัญในภาคธุรกิจและอุตสาหกรรม  จึงมีความสัมพันธ์เป็นเครือข่ายกับตลาดงาน

     ไม่ว่าเราผ่านวิกฤตการณ์ทุกข์ยากจากปัญหาโรคระบาด สงครามในยุโรป น้ำมันเชื้อเพลิง และสินค้าอุปโภคบริโภคขึ้นราคา เงินเฟ้อเพิ่มขึ้น แต่เราคนไทยทุกคน ก็ยังหวังที่จะได้เห็นว่า ปีหน้าเศรษฐกิจไทยจะเฟื่องฟู และหลังจากฟังเสวนาแล้วมหานครจะมีพลังใจ อึด ฮึด สู้ ต่อไป อธิการบดีกล่าวทิ้งท้าย

 

ผู้สนใจสามารถรับชมและติดตามคลิปข่าวที่ได้รับการเผยแพร่ จากสื่อมวลชนได้จากลิงค์ต่างๆ เลยนะคะ

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Accept All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save